เปรียบเทียบ Geteron Switch vs Cherry MX vs Kailh

มี Mechanical Switch หลายยี่ห้อจัง เลือกแบรนด์ไหนดี

Keychron types of keyboard banner

     ทุกวันนี้มีผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์มากมายหันมาให้ความสนใจกับปรับแต่งและประกอบ Mechanical Keyboard กันมากขึ้น เพราะการลงมือประกอบหรือปรับแต่งคีย์บอร์ดเองนั้นทำให้เราสามารถเลือกสร้างประสบการณ์การใช้คีย์บอร์ดในแบบที่เหมาะกับเราเป็นการส่วนตัว ดังนั้นคีย์บอร์ดกลไก (Mechanical Keyboard) หลายแบรนด์จึงเริ่มผลิตคีย์บอร์ดที่เอื้อให้การปรับแต่งนั้นง่าย สะดวก และปลอดภัยยิ่งขึ้น มีการผลิต Keyboard switch ออกมาหลายแบบเพื่อตอบสนองความต้องการที่ยิ่งเจาะจงขึ้นเรื่อยๆ

     Mechanical Switch ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกและจดสิทธิบัตรโดยแบรนด์ Cherry MX ราวปี ค.ศ.1980 จนกระทั่งสิทธิบัตรหมดอายุจึงเริ่มมีบริษัทอื่นทำ Keyboard switch ขึ้นมาบ้าง โดยใช้ Cherry MX Switch เป็นต้นแบบในการผลิต ในปัจจุบัน Mechanical switch ที่เป็นที่นิยมมีหลายแบรนด์ เช่น Gateron, Kailh และ Outemu ซึ่งแต่ละแบรนด์นั้นมีลูกเล่น ดีไซน์ และมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน บทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบกันทีละแบรนด์ ว่า Keyboard switch มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง แล้วเราควรพิจารณาจากอะไรในการเลือกซื้อ

Cherry MX

     Cherry MX เป็นแบรนด์ที่เริ่มพัฒนา Mechanical switch เป็นเจ้าแรก จุดแข็งที่โดดเด่นของแบรนด์นี้มีคือการการันตีความทนทานของปุ่มถึง 100 ล้านครั้ง แต่หากเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ที่มีลูกเล่น มีคุณสมบัติที่หลากหลาย และมีราคาที่ถูกกว่าแล้ว ก็อาจจะบอกได้ว่าแบรนด์นี้มีจุดเด่นที่ความทนทานเพียงอย่างเดียว Cherry MX ได้ชื่อว่าเป็น Keyboard switch มาตรฐาน เพราะหลังจากสิทธิบัตร Keyboard switch ของบริษัท Cherry หมดไปในปี ค.ศ.1984 ทำให้บริษัทอื่นๆ เริ่มผลิตสวิตช์ขึ้นมาโดยใช้ Cherry MX เป็นต้นแบบ โดยสรุปแล้ว Cherry จึงเป็น Keyboard switch ที่เหมาะสำหรับคนที่เน้นความทนทาน ไม่ต้องการคุณสมบัติ ลูกเล่น การออกแบบที่ “เยอะ” เกินไป

     Cherry MX ผลิตออกมาอยู่ทั้งหมด 6 สี ประเภท Linear Switch ได้แก่ MX Red, MX Black ประเภท Tactile ได้แก่ MX Brown, MX Clear และประเภท Clicky ได้แก่ MX Blue, MX Green นอกจากนี้ได้ออกแบบปุ่มพิเศษมา 3 รุ่น ได้แก่ Silent, Speed Silver และ Low Profile

     Silent Switch ของ Cherry MX ถูกผลิตออกมาเพียง 2 สีเท่านั้น นั่นคือ Silent Red และ Silent Black ทั้งสองสีเป็นประเภท Linear Switch ที่เพิ่มชิ้นส่วนยางทำให้มีเสียงเบากว่ารุ่นปกติถึง 30 เปอร์เซ็นต์ สิ่งที่แตกต่างระหว่างสองสีนี้คือ Actuation Force (แรงในการกดปุ่ม) Silent Red ถูกออกแบบมาให้อยู่ที่ 45cN (เซนตินิวตัน) ขณะที่ Silent Black อยู่ที่ 60cN ทำให้น้ำหนักหรือสัมผัสเวลากดปุ่มของ Silent Red เบากว่า Silent Black เข้ากับคนที่ชินกับปุ่มที่มีความเบาและเสียงที่เงียบ เหมาะกับการทำงานในออฟฟิศที่ไม่ต้องการสร้างเสียงรบกวนเพื่อนร่วมงาน

     Speed Silver ของ Cherry MX เป็นรุ่นที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการกดคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว การออกแบบ Actuation Distance (ระยะห่างระหว่างปุ่มกับแผงวงจร) อยู่ที่ 1.2 มิลลิเมตร ระยะสั้นกว่ารุ่นปกติ 0.8 มิลลิเมตร เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับการเล่นเกมเพราะ (เชื่อกันว่า) สามารถลดระยะเวลาหน่วงได้ รุ่นนี้อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่เคยชินกับระยะปุ่มเดิม หรือใช้แรงนิ้วในการกดปุ่มมาก เพราะอาจทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าจากการออกแรงเกินความจำเป็น

     ส่วนสวิตช์รุ่น Low Profile มีการออกแบบมาคล้ายกับ Speed Silver คือระยะที่สั้นลงของ Actuation Distance สิ่งที่แตกต่างคือการออกแบบ Keyboard switch ให้แบนลง จุดประสงค์คือช่วยในการพิมพ์ที่เร็วขึ้น เหมาะกับการเล่นเกม การทำงานที่ต้องการความคล่องตัว และรู้สึกสบายข้อมือเวลาวางบนแป้นคีย์บอร์ด Cherry MX Low Profile มีเพียงเฉพาะที่ติดตั้งพร้อมกับคีย์บอร์ดแล้ว ยังไม่มีการขายตัว Switch แบบแยกครับ

Gateron

     Gateron ถูกยกย่องว่าเป็นแบรนด์ Keyboard switch ที่มีคุณภาพรองมาจาก Cherry MX อย่างกระชั้นชิด รับประกันความทนทานของการกด Switch ได้มากถึง 50 ล้านครั้ง และขึ้นชื่อในเรื่องของ Linear Switch ที่มีความคงทน มีสัมผัสกดที่นุ่ม ใช้ได้ลื่นไหลไม่ติดขัด และมีการผลิตรุ่นที่มีลูกเล่นมากกว่า ขณะที่ Cherry MX ผู้ใช้หลายคนมักกล่าวว่า Mechanical switch บางรุ่นมีราคาที่แพงเกินไปและมีคุณภาพไม่สมกับราคา เช่นรุ่นที่เป็น Linear Switch เป็นต้น Gateron จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่อยากได้ Keyboard switch ที่มีตัวเลือกที่หลากหลาย แถมมีราคาที่ถูกกว่าอีกด้วย

     ทาง Gateron ผลิตออกมาทั้งหมด 6 สีด้วยกัน Linear Switch ได้แก่ Clear (White), Red, Yellow, Black. Clicky Switch ได้แก่ Blue, Green. Tactile Switch ได้แก่ Brown นอกจากนี้ยังออกรุ่นพิเศษออกมา 4 รุ่น ได้แก่ Silent, Low Profile, Milk และ Ink ท่านสามารถเข้าไปอ่านความแตกต่างของสวิตช์ Gateron แต่ละสีได้ที่หน้านี้เลยครับ

     Gateron Switch รุ่น Silent และ Low Profile นั้นมีคุณสมบัติเหมือนกันกับ Cherry MX รุ่น Silent ต่างกันแค่เรื่องของระยะของ Actuation Distance ที่มีระยะที่สั้นกว่า โดย Gateron Silent ถูกผลิตออกมาทั้งหมด 5 สี ได้แก่ Silent Clear, Silent Red, Silent Yellow, Silent Black และ Silent Brown เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสียงที่เบาจากการพิมพ์คีย์บอร์ดเวลาทำงาน หรือเล่นเกม

     ส่วน Gateron รุ่น Low Profile ออกแบบมาให้มี Travel Distance (ระยะห่างตั้งแต่ Keycap จนถึงแผงวงจร) และ Actuation Distance ที่น้อยลง ผลิตออกมาทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Low-Profile Red, Low-Profile Brown และ Low-Profile Blue เหมาะกับการใช้งานที่อาศัยการพิมพ์ไว หรือเล่นเกมที่ต้องใช้ความรวดเร็วในการกดปุ่ม สำหรับบางคนการที่ Actuation Distance น้อยลงอาจทำให้ใช้งานไม่สะดวกสบายมากเท่าไหร่ ด้วยปุ่มที่ออกแบบมาแบน และบางสามารถให้ความสบายต่อการวางข้อมือได้

     รุ่น Milk คือรุ่นที่ออกแบบตัวครอบ (Upper Housing) ให้มีสีขุ่น เพื่อให้แสง RGB ที่ออกมามีความนวลนุ่ม ส่วนคุณสมบัตินั้นมีความเหมือนกันกับรุ่นธรรมดา รุ่นที่พิเศษจริงๆ ของ Gateron คือรุ่น Ink ที่ใช้พลาสติกที่ต่างจากรุ่นทั่วไปในการผลิต คุณสมบัติของพลาสติกรุ่นนี้ทำให้ลดแรงเสียดทานของ Switch ทำให้รู้สึกถึงความไหลลื่นขณะพิมพ์ ตัวครอบของ Switch ออกแบบด้วยสีเขม่าใส ดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร ผลิตออกมาทั้งหมด 5 สี ได้แก่ Ink Red, Ink Yellow, Ink Black, Ink Blue และ Silent Ink Black

Kailh

     Kailh เป็นอีกหนึ่งแบรนด์นอกจาก Gateron ที่ทำ Keyboard switch ออกมามีลูกเล่นเฉพาะตัว รับประกันปุ่มถึง 60 ล้านครั้ง มีจุดเด่นเรื่องการออกแบบ Click Bar ของ Clicky Switch ให้มีเสียงที่เบาลงกว่าแบรนด์อื่นๆ ในขณะที่ยังคงให้สัมผัสปุ่มกดเหมือนเดิม Kailh จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบ Clicky Switch เป็นพิเศษ

     อย่างไรก็ตาม Switch ของ Kailh มักโดนกล่าวถึงความกระท่อนกระแท่น การประกอบของปุ่มที่ดูไม่ค่อยแข็งแรงมากเท่าไหร่นัก ภายหลัง Kailh ออกรุ่น BOX ที่ออกแบบปุ่มให้มีความแข็งแรงมากกว่าเดิม พร้อมกับก้านปุ่มที่ทรงเหมือนกล่องตามชื่อรุ่น ผลิตออกมามากถึง 8 สี ทั้งประเภท Linear, Tactile และ Clicky แต่ละตัวมี Actuation Distance เท่ากันอยู่ที่ 1.8 มิลลิเมตร

     ส่วนรุ่นธรรมดานั้น Kailh ผลิตออกมาเพียง 4 สีเท่านั้น ประเภท Linear ได้แก่ Red, Black ประเภท Tactile ได้แก่ Brown และประเภท Clicky ได้แก่ Blue 

     Kailh ยังออกรุ่นพิเศษเหมือนแบรนด์อื่นๆ นั่นคือรุ่น Speed ที่เน้น Actuation Distance ที่น้อยลง สำหรับคนที่ต้องการใช้งานปุ่มอย่างรวดเร็ว รุ่น Box Silent มีการเพิ่มยางเข้ามาเพื่อลดเสียงที่ดังจากการพิมพ์ และรุ่น Low Profile ที่เป็นที่นิยมในหมู่นักเล่นเกม จากการออกแบบปุ่มที่มีความแบน พร้อมกับ Actuation Distance ที่น้อยลง

สรุป

     สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดในการเลือกซื้อ Mechanical switch คือจุดประสงค์ในการใช้งาน ความสะดวกสบายของผู้ใช้ขณะใช้งาน และความเพลิดเพลินของสัมผัสปุ่มกด หากคุณเป็นคนที่มีแรงนิ้วน้อย คุ้นชินกับปุ่มที่มีน้ำหนักเบา รู้สึกว่าการมีปุ่มเบาทำให้รู้สึกคล่องแคล่วมากกว่า แถมต้องการความแข็งแรง ทนทาน หรือคุณเป็นคนที่ชอบเล่นเกมทุกรูปแบบ กดปุ่มหลายปุ่มในเวลาที่ใกล้กัน หรือต้องการใช้ทำงานในสถานที่ที่ต้องการความเงียบในการทำงาน Keyboard switch ประเภท Linear โดยเฉพาะจากแบรนด์ Gateron จะตอบโจทย์มากที่สุด

     ส่วนใครที่ทำงานคนเดียว หรือเรื่องเสียงดังไม่เป็นปัญหาสำหรับคนอื่นขณะทำงาน และต้องการความสนุกขณะพิมพ์งาน มีความชื่นชอบของเสียงกลไลการทำงานของปุ่ม ความลึกแบบสองชั้นของปุ่มที่กดลงไปแล้วให้ความรู้สึกพอใจอย่างน่าประหลาด ประเภท Clicky คือตัวเลือกของคุณแน่ๆ หรือว่าจะเป็นประเภท Tactile ที่สามารถใช้งานที่ไหน รูปแบบใดก็ได้ แถมให้สัมผัสในการกดแบบความลึกเดียวเหมือน Linear Switch และเสียงคลิกของปุ่มที่เหมือน Clicky Switch

ถ้าใครเลือกได้แล้วก็สามารถคลิกเข้าไปเลือกซื้อสวิตช์ที่ปุ่มด้านล่างได้เลย!!