ทำไม ? คีย์บอร์ด Scissor Switch
ถึงยังเป็นตัวเลือกที่น่าใช้ ในปี 2024

scissor-switch-keyboard.png

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวคีย์ครอนและคนรักคีย์บอร์ดทุกคน! วันนี้ผมมีเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับคีย์บอร์ดที่หลายๆ คนอาจยังไม่รู้จัก
นั่นก็คือ " คีย์บอร์ด Scissor Switch "

ในอดีต เราอาจจะคุ้นเคยกับคีย์บอร์ดแบบ Rubber Dome หรือ คีย์บอร์ด Mechanical ที่เป็นที่นิยมมากๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ในปี 2024 นี้ คีย์บอร์ด Scissor Switch กำลังกลับมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกครั้ง ด้วยคุณสมบัติและความพิเศษที่แตกต่างออกไป อีกทั้งยังเป็นเทคโนโลยีที่เราอาจเคยเห็นบ่อยๆ ในคีย์บอร์ด Laptop กันมาบ้างแล้ว

ผมจะพาไปทำความรู้จักกับ Scissor Switch ให้มากขึ้น ตั้งแต่หลักการทำงาน ข้อดีต่าง ๆ รวมถึงการเปรียบเทียบกับคีย์บอร์ดชนิดอื่น ๆ เพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถตัดสินใจได้ว่า ทำไมถึงควรมีคีย์บอร์ด Scissor Switch ไว้ใช้งาน มาเริ่มกันเลย!

Scissor Switch
คืออะไร

Scissor Switch คืออะไร

ย้อนกลับไปในอดีต คีย์บอร์ด Rubber Dome เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยคีย์บอร์ด Rubber Dome มีกลไกโดมยางซ่อนอยู่ใต้ปุ่มกด ซึ่งเมื่อกดลงไป โดมยางจะยุบตัวและส่งสัญญาณไปยังคอมพิวเตอร์ แต่อย่างไรก็ตาม ความแม่นยำและความทนทานของ Rubber Dome ยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับผู้ใช้หลายคน ดังนั้น Scissor Switch จึงก้าวเข้ามาพัฒนาต่อยอด

โดย คีย์บอร์ด Scissor Switch คือ การพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี Rubber Dome แทนที่จะใช้โดมยางแบบเดิม มันกลับใช้พลาสติกที่มีโครงสร้างพิเศษคล้ายกรรไกรซ่อนอยู่ใต้ปุ่มกด แผ่นกรรไกรสองแผ่นจะไขว้กันอยู่ใต้ปุ่ม เมื่อกดลงไป แผ่นกรรไกรนี้จะขยับและดันให้ปุ่มตอบสนองกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว การออกแบบนี้ทำให้การพิมพ์นุ่มนวลและเงียบมากจนแทบไม่รู้สึกว่าเรากำลังพิมพ์อยู่เลย ครับ

กลไกการทำงานของคีย์บอร์ด Scissor Switch

Rubber Dome

Rubber Dome Switch.gif

Mechanical Switch

keychron-kailh-box-white

credit : keychron.com

เพื่อนๆ อาจจำได้ว่า คีย์บอร์ดแบบ Rubber Dome และ Mechanical ต่างมีข้อดีเฉพาะตัว คีย์บอร์ดแบบ Mechanical มีความทนทานและการตอบสนองที่ดี เนื่องจากใช้สวิตช์กลไกที่มั่นคง แต่ในบางสวิตซ์อาจมีเสียงดังและมีขนาดใหญ่ ส่วนคีย์บอร์ดแบบ Rubber Dome มีเสียงเบาและบางกว่า แต่การตอบสนองไม่ดีเท่าที่ควร

Scissor Switch

scissor-switch-keyboard

กลไกของ คีย์บอร์ด Scissor Switch จึงถูกนำมาพัฒนาขึ้นเพื่อรวมข้อดีของทั้งสองประเภทเข้าด้วยกัน เป็นการผสมผสานเพื่อให้ได้ทั้งความบางเบาและความเสถียรในการพิมพ์ที่ดียิ่งขึ้น ชิ้นส่วนพลาสติกสองชิ้นที่เชื่อมต่อกันเป็นโครงสร้างคล้ายกรรไกรอยู่ใต้ปุ่มคีย์แต่ละปุ่ม กลไกนี้จะเชื่อมต่อกับทั้งคีย์แคปและโครงสร้างของคีย์บอร์ดซึ่งจะช่วยให้การกดปุ่มมีความเสถียรและสม่ำเสมอขึ้น

นอกจากนี้ ระยะการกดที่สั้นกว่าคีย์บอร์ดทั่วไป โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 มม. ซึ่งทำให้การกดปุ่มทำงานได้เร็วขึ้นและพิมพ์ได้ไวขึ้นนั่นเองครับ

ข้อดีของคีย์บอร์ด
Scissor Switch

Scissor-Switch-Keyboards

ที่เล่ามาทั้งหมด นี่แหละครับ ทำให้เกิด คีย์บอร์ดแบบ Scissor Switch ที่พยายามรวมข้อดีของทั้งสองแบบเข้าไว้ด้วยกัน แล้วมันมีข้อดีอะไรบ้างละ ?

1. ความเสถียรและความแม่นยำ : กลไกกรรไกรช่วยให้ปุ่มคงที่และไม่โยกเยกเมื่อกด ส่งผลให้การพิมพ์มีความแม่นยำ และการที่ปุ่มไม่สั่นไหวทำให้การพิมพ์งานเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความผิดพลาดในการพิมพ์มากขึ้น

2. การทำงานที่เงียบ : Scissor Switch มักจะมีเสียงเบากว่าคีย์บอร์ด Mechanical ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในที่ที่ต้องการความเงียบ

3. ความทนทาน : วัสดุที่ใช้ใน Scissor Switch มีความทนทานมากกว่า Rubber Dome ทำให้คีย์บอร์ดมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ปุ่มกดสามารถทนต่อการใช้งานหนักได้ดีกว่า

4. ประสิทธิภาพสูง : Scissor Switch เป็นการผสมผสานที่ลงตัวของข้อดีจากคีย์บอร์ด Mechanical และ Rubber Dome ทำให้มีทั้งความเร็วในการพิมพ์และความทนทาน

5. ความพกพาสะดวก : ด้วยดีไซน์ที่บางเบา คีย์บอร์ด Scissor Switch เหมาะสำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น Laptop และแท็บเล็ต สามารถพกพาได้สะดวก ไม่หนักกระเป๋า และยังคงความสะดวกสบายในการพิมพ์

6. การออกแบบที่เข้ากับสรีระ : ระยะการกดปุ่มที่สั้น หรือที่เรียกว่า 'ระยะการสั่งงาน' ช่วยลดการทำงานหนักของนิ้ว ทำให้การพิมพ์เป็นไปอย่างสบาย เหมือนกับการพิมพ์บนพื้นผิวนุ่มสบาย พิมพ์นานเท่าไรก็ไม่เมื่อย เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะเวลานานๆ

บันจุบัน ทำไมคีย์บอร์ด Scissor Switch ถึงยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ?

scissor-switch-ดีไหม

ในปัจจุบัน คีย์บอร์ด Scissor Switch ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะการออกแบบที่บางเบาและกะทัดรัด เหมาะกับโน้ตบุ๊ก Laptop และอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ การพิมพ์ยังเสถียรและแม่นยำด้วยกลไกกรรไกรใต้ปุ่มคีย์ ทำให้กดปุ่มได้สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะกดตรงกลางหรือขอบปุ่มก็ตอบสนองดี

อีกข้อดีที่ทำให้ Scissor Switch ยังคงเป็นที่นิยมคือเสียงเบา ซึ่งเหมาะสำหรับการทำงานในยุคบันจุบัน ที่ต้องการความเงียบ เช่น ห้องสมุด หรือ ที่ทำงาน
ร่วมกับผู้อื่น นอกจากนี้ ระยะการกดที่สั้นกว่าคีย์บอร์ดทั่วไป ทำให้การพิมพ์งานได้เร็วขึ้น ไม่ต้องใช้แรงกดมาก ไม่เมื่อยล้าแม้จะพิมพ์งานนานๆ

ความทนทานของคีย์บอร์ด Scissor Switch ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้มันยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้จะบางเบา แต่การออกแบบที่เน้นการใช้งานหนัก ทำให้มันเหมาะกับการพกไปทำงานที่ไหนก็ได้ในทุกๆ วัน

นอกจากนี้ ราคาของ คีย์บอร์ด Scissor Switch ยังเข้าถึงได้ง่าย ไม่แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดแบบ Mechanical ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการคีย์บอร์ดที่มีคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล

Scissor Switch VS Mechanical Switch

ข้ามมาดู Mechanical Switch กันบ้าง! สำหรับ Switch เราน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย กลไกการทำงานของมันต่างจาก Scissor Switch อยู่พอสมควร โดย Mechanical Switch ใช้สวิตช์กลไกที่ประกอบด้วยสปริงและแผ่นสัมผัสโลหะ เมื่อกดปุ่ม สปริงจะถูกกดลงและแผ่นสัมผัสจะเชื่อมต่อกัน ทำให้ปุ่มเกิดการทำงาน

สวิตช์แต่ละประเภทของ Mechanical Switch มีลักษณะการตอบสนองที่แตกต่างกัน เช่น บางสวิตช์อาจให้เสียงคลิกที่ชัดเจน เพิ่มความรู้สึกในการพิมพ์ นอกจากนี้ ระยะการกดของปุ่ม Mechanical Switch ยาวกว่า ทำให้ผู้ใช้สามารถรับรู้ถึงการกดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

และหากเพื่อนๆ อยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับระดับเสียงการพิมพ์ แรงกดและความรู้สึกขณะพิมพ์ เพื่อนๆ สามารถอ่านบทความเรื่อง สีสวิตช์คีย์บอร์ดแต่ละสีต่างกันอย่างไร เพิ่มเติมได้เลยครับ

Scissor Switch 

Keychron-B1 Pro-keyboard scissor switch

Scissor Switch เป็นปุ่มกดที่มีดีไซน์บางเบาและเหมาะสำหรับการใช้งานกับแล็ปท็อป โดยเฉพาะเมื่อต้องการประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน

นอกจากนี้การกดปุ่มยังเงียบมาก จึงเหมาะสำหรับสถานที่ ที่ต้องการความสงบ ทั้งนี้ เนื่องจากกลไกที่ยึดติดกับตัวคีย์แคปช่วยลดการโยกเยก และเพิ่มความแม่นยำ

ราคาของ Scissor Switch ถูกกว่าคีย์บอร์ด Mechanical จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีงบจำกัด และยังมีน้ำหนักเบาและกะทัดรัด ทำให้พกพาสะดวก

อย่างไรก็ตาม Scissor Switch มีข้อจำกัด ในการปรับแต่งมากกว่า Mechanical Switch จึงอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบปรับแต่งคีย์บอร์ดของตัวเอง

Mechanical Switch

1-k2-pro-cover

Mechanical Switch มีความทนทานสูงและสามารถใช้งานได้ยาวนานนับสิบล้านครั้งของการกดปุ่ม

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกสวิตช์ที่หลากหลาย เช่น Cherry MX ซึ่งให้ความรู้สึกและเสียงที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้ สามารถปรับแต่งคีย์แคปและสวิตช์ได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังมีการตอบสนองสัมผัสที่ดี ทำให้การกดปุ่มรู้สึกชัดเจน

อย่างไรก็ตาม Mechanical Switch อาจมีเสียงดัง โดยเฉพาะเมื่อใช้สวิตช์บางประเภท และอาจมีราคาสูงกว่า น้ำหนักที่มากกว่าคีย์บอร์ดแบบอื่นๆ

โปรไฟล์บาง: ดีไซน์บางทำให้เหมาะสำหรับแล็ปท็อปและประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน

การทำงานที่เงียบ: การกดปุ่มเงียบ เหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการความสงบ

ความเสถียรและความแม่นยำ: กลไกกรรไกรที่ยึดติดกับตัวคีย์แคปช่วยให้ปุ่มมีความเสถียร ลดการโยกเยก และเพิ่มความแม่นยำในการกดปุ่ม

คุ้มค่า: ราคาถูกกว่าคีย์บอร์ด Mechanical ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนงบจำกัด

พกพาสะดวก: น้ำหนักเบาและกะทัดรัด ง่ายต่อการพกพาสำหรับการทำงานนอกสถานที่

ข้อสังเกต

ข้อจำกัดในการปรับแต่ง : Scissor Switch มักมีข้อจำกัดในการปรับแต่งสวิตช์และคีย์แคป เมื่อเปรียบเทียบกับคีย์บอร์ดแมคคานิคอล ดังนั้น ผู้ที่ชื่นชอบการปรับแต่งอาจต้องพิจารณาข้อนี้

ทนทาน: Mechanical Switch สร้างขึ้นมาให้มีความทนทานสูง มีอายุการใช้งานนับสิบล้านครั้งของการกดปุ่ม

การปรับแต่ง: มีตัวเลือกสวิตช์ที่หลากหลาย เช่น Cherry MX ที่ให้ความรู้สึกและเสียงที่แตกต่างกัน สามารถปรับแต่งคีย์แคปและเลย์เอาต์ได้ตามความต้องการ

การตอบสนองสัมผัส: มีการตอบสนองสัมผัสที่ดี ให้ฟิลสัมผัสในการกดที่ชัดเจน

ข้อสังเกต

เสียงดัง : Mechanical Switch อาจมีเสียงดัง โดยเฉพาะเมื่อใช้สวิตช์บางประเภท  ราคาและน้ำหนัก : อาจมีราคาสูงกว่าและน้ำหนักมากกว่า

เช็ค! ความต่างระหว่าง Scissor Switch และ Mechanical Switch

.Scissor SwitchMechanical Switch
ลักษณะเด่น
ดีไซน์บาง✔️
ปุ่มต่ำกว่า (Low Profile)✔️
ตอบสนองรวดเร็ว✔️
การปรับแต่ง Keycap และ Switch✔️
มีตัวเลือกสวิตช์✔️
ข้อสังเกต..
ซ่อมบำรุงยาก
✔️
ตัวเลือกสวิตช์น้อย✔️
มีเสียงดัง (ในบาง Switch)✔️
ราคาที่สูงกว่า✔️

คีย์บอร์ด Low-profile ต่างกับ คีย์บอร์ด
Scissor switch ไหม ?

คีย์บอร์ด Low-profile ต่างกับ คีย์บอร์ด Scissor switch ไหม ?

พออ่านมาถึงตอนนี้ เพื่อนๆ อาจจะสงสัยว่า คีย์บอร์ด Low-profile ต่างกับคีย์บอร์ด Scissor Switch ยังไง ในเมื่อก็ดูบางและเบาเหมือนกัน งั้นมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

ความแตกต่างระหว่าง คีย์บอร์ด Low-profile กับ Scissor Switch อยู่ที่กลไกการทำงานภายใน ซึ่งส่งผลให้การพิมพ์รู้สึกต่างกัน คีย์บอร์ด Low-profile ใช้กลไกแบบ Normally Open (NO) หมายความว่าตอนที่เรายังไม่กดปุ่ม หน้าคอนแท็กจะไม่ติดกัน แต่พอเรากดปุ่มลงไป หน้าคอนแท็กจะมาติดกัน แล้วคอมพิวเตอร์ก็จะรู้ว่าเรากดปุ่มนี้ สัญญาณก็จะถูกส่งไป เหมือนสั่งให้มันทำงานเมื่อกดปุ่ม

ในทางตรงกันข้าม คีย์บอร์ดแบบ Scissor Switch ใช้กลไกแบบ Normally Closed (NC) ซึ่งหมายความว่าเมื่อปุ่มอยู่ในสภาพปกติ หน้าคอนแท็กจะเชื่อมต่อกันอยู่แล้ว แต่พอเรากดปุ่มลงไป หน้าคอนแท็กจะห่างกันนิดหน่อย ทำให้คอมพิวเตอร์รู้ว่า 'มีการกดปุ่ม' ความเจ๋งตรงนี้คือการออกแบบที่ช่วยให้การกดปุ่มมีความนุ่มนวลและมั่นคงมากขึ้น เนื่องจากมีการใช้กลไกแบบกรรไกร (Scissor mechanism) เพื่อรองรับทำให้ปุ่มไม่โยกเยกนั่นเองครับ

แล้วแบบไหนที่
เหมาะกับเรา ?

ถ้ากำลังมองหาคีย์บอร์ดใหม่ ลองดูที่ความต้องการก่อน ถ้าชอบความบางเบาและต้องการการพิมพ์ที่เงียบ Scissor Switch เป็นตัวเลือกที่ดี โดยเฉพาะถ้าใช้งานร่วมกับ Laptop หรือมีงบค่อนข้างจำกัด

แต่ถ้าหากชอบการปรับแต่งด้วยสวิตช์และคีย์แคป Mechanical Switch ก็น่าจะถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า เพราะสามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Scissor Switch และ Mechanical Switch มีเสน่ห์และจุดเด่นเฉพาะตัว “ ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน การเลือกคีย์บอร์ดที่เหมาะกับความต้องการจะทำให้ได้รับประสบการณ์การพิมพ์ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ "

Keychron B1 Pro scissor switch keyboard
Keychron B1 Pro scissor switch keyboard
Keychron B1 Pro scissor switch keyboard

สรุป

ในปี 2024 คีย์บอร์ด Scissor Switch ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วัสดุที่ทนทานมากขึ้น พร้อมการออกแบบที่ช่วยลดเสียงการกดปุ่มให้เงียบกว่าเดิม การออกแบบที่ซับซ้อนแต่มั่นคงยังช่วยเพิ่มความแม่นยำในการกดปุ่ม อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า Rubber Dome เพราะวัสดุที่แข็งแรงกว่า

ข้อดีของคีย์บอร์ด Scissor Switch ความทนทานและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ ความบางเบาของคีย์บอร์ดยังเหมาะสำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่

ในทางตรงกันข้ามกับคีย์บอร์ด Mechanical ที่แม้จะตอบสนองดีและทนทานสูง แต่มีน้ำหนักมากและเสียงดัง Scissor Switch จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการคีย์บอร์ดที่มีความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ ความทนทาน และความสะดวกสบายในการใช้งาน

เพราะเหตุนี้ คีย์บอร์ด Scissor Switch ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าใช้ในปี 2024

ดังนั้น เพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดใหม่ อย่าลืมพิจารณาคีย์บอร์ด Scissor Switch  มันอาจเป็นคำตอบที่กำลังมองหาอยู่ก็ได้ครับ

เลือกชมสินค้า คีย์บอร์ด Scissor Switch 
Keychron B1 Pro - Keychron Thailand
Keychron B1 Pro - Keychron Thailand
Scissor Switch ? – FAQs-คำถามที่พบบ่อย
ทำไมถึงเรียกว่า Scissor Switch?

ชื่อ Scissor Switch มาจากกลไกการทำงานของมันที่ใช้แป้นเหล็กสองอันในรูปแบบกรรไกร (scissor) เพื่อยึดแป้นพิมพ์เข้าด้วยกัน

Scissor Switch กับ Mechanical Switch แตกต่างกันอย่างไร?

Scissor Switch ใช้กลไกกรรไกรที่ทำให้การกดปุ่มนุ่มนวลและเงียบ ส่วน Mechanical Switch ใช้สปริงและแผ่นสัมผัสที่ให้ความรู้สึกการกดที่ชัดเจนและเสียงที่แตกต่างกัน

Scissor Switch เหมาะสำหรับการพิมพ์นานๆ หรือไม่?

Scissor Switch เหมาะสำหรับการพิมพ์นานๆ เนื่องจากมันมีการตอบสนองที่รวดเร็วและการพิมพ์ที่นุ่มนวล ทำให้ไม่เมื่อยล้าแม้ใช้งานเป็นเวลานาน

ราคาของคีย์บอร์ด Scissor Switch เป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับคีย์บอร์ดประเภทอื่น?

ราคาของคีย์บอร์ด Scissor Switch มักจะต่ำกว่าคีย์บอร์ด Mechanical แต่ยังคงให้คุณภาพการพิมพ์ที่ดี ราคานี้ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

เปรียบเทียบคีย์บอร์ด Scissor Switch กับคีย์บอร์ด Low-profile เป็นอย่างไร?

คีย์บอร์ด Scissor Switch ใช้กลไกกรรไกรที่ช่วยให้ปุ่มมีความเสถียรและการเดินทางที่สั้นกว่า ในขณะที่คีย์บอร์ด Low-profile ใช้กลไกที่เรียกว่า Normally Open (NO) หรือ Normally Closed (NC) ซึ่งอาจให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันในการกดปุ่ม

ปัจจุบันคีย์บอร์ดที่เป็น Scissor Switch ยังน่าใช้อยู่หรือไหม?

คีย์บอร์ด Scissor Switch ยังคงน่าสนใจเพราะมีการพัฒนาวัสดุที่ทนทานมากขึ้น การออกแบบที่ช่วยลดเสียงการกดปุ่มและความแม่นยำในการพิมพ์ที่สูง นอกจากนี้ยังบางเบาและพกพาสะดวก

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง ที่น่าสนใจ

สีสวิตช์คีย์บอร์ดแต่ละสีต่างกันอย่างไร

สีสวิตช์คีย์บอร์ดแต่ละสีต่างกันอย่างไร

บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจว่า Keyboard Switch แต่ละตัวนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร และสวิตช์แบบไหนเหมาะกับการใช้งานแบบใด สำหรับ Keychron Thailand นั้นเราเลือกนำเข้า Gateron switch เฉพาะรุ่นที่เป็นที่นิยมทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Red switch, Brown switch, และ Blue switch หากท่านใดสนใจสามารถเข้าไปดูสินค้าได้ที่หน้านี้ครับ