เลือกคัสต้อมคีย์บอร์ดแบบไหนดี?
ในบล็อกนี้ Keychron Thailand จะมาแนะนำวิธีการเลือกคัสต้อมคีย์บอร์ดให้เหมาะกับคุณที่สุด ใครที่กำลังจะเริ่มต้นคัสต้อมคีย์บอร์ด ตามมาดูกันเลย
เทรนด์ที่กำลังฮิตติดตลาดแมคคานิคอลคีย์บอร์ดอยู่ตอนนี้คือ “คัสต้อมคีย์บอร์ด” ผู้คนสามารถสร้างคีย์บอร์ดแบบที่ตัวเองต้องการได้ เพราะคัสต้อมคีย์บอร์ดจะช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งสัมผัสการพิมพ์ ปรับเปลี่ยนคำสั่งปุ่มต่าง ๆ สร้างคำสั่งคีย์ลัดขึ้นมา และอีกมากมายตามที่พวกเขาต้องการ
โดยปกติแล้ว แมคคานิคอลคีย์บอร์ดที่คัสต้อมได้จะมาใน 2 รูปแบบ
- ชุด Fully assembled: คือคีย์บอร์ดที่ประกอบมาพร้อมใช้งานทันทีที่ออกจากกล่อง คุณสามารถเลือกแยกส่วนประกอบมันออกจากกันได้ เพื่อที่จะใส่ชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่คุณชอบลงไปแทน
- ชุด Barebone: สำหรับ Barebone บางชุด ผู้ใช้อาจจะต้องนำชิ้นส่วนมาประกอบเอง ปกติชุดนี้จะไม่มีสวิตช์และคีย์แคปมาให้ ผู้ใช้จึงควรตรวจสอบและสั่งซื้อไอเท็มเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติม ควรเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญต่อคีย์บอร์ดและสามารถใช้ร่วมกับชุด Barebone ที่เราซื้อมาได้
คุณสามารถเลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่:
- ฟีเจอร์หลักที่สำคัญสำหรับคุณ
- Anatomy ของคัสต้อมแมคคานิคอลคีย์บอร์ด
- การ mod คีย์บอร์ดเบื้องต้น
- เราจะหาชิ้นส่วนคีย์บอร์ดได้จากที่ไหน?
ฟีเจอร์หลักที่สำคัญสำหรับคุณ
ก่อนที่คุณจะเลือกว่าจะซื้อคัสต้อมคีย์บอร์ดตัวไหนดี คุณต้องเริ่มคิดก่อนว่าฟีเจอร์สำคัญที่คุณต้องการให้อยู่บนคีย์บอร์ดคืออะไร เพราะบ่อยครั้งฟีเจอร์สำคัญที่คุณต้องการอาจติดตั้งอยู่บนคีย์บอร์ดมาก่อนแล้ว อันที่จริงมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะ mod คีย์บอร์ด ดังนั้นเลือกให้มั่นใจก่อนตั้งแต่สเต็ปนี้เลยดีกว่า
ขนาด (Size)
คีย์บอร์ดในตลาดมีให้เลือกมากมายหลายขนาด ตั้งแต่ Full Size, 96%, Tenkeyless (80%), 75%, 70%, 65%, 60% และอื่น ๆ แต่ละไซส์ก็ค่อนข้างโดดเด่นด้วยดีไซน์เลย์เอาต์เฉพาะตัว แต่เมื่อคีย์บอร์ดมีขนาดเล็กลง แป้นตัวเลข ปุ่ม navigation ปุ่มฟังก์ชั่น อาจจะถูกนำออกไปจากคีย์บอร์ด
ANSI, ISO and JIS layouts
นอกจากขนาดแล้ว ยังมีเลย์เอาต์อีก 3 ประเภทที่ควรรู้จัก
• ANSI (American National Standards Institute) layout: เลย์เอาต์ที่เป็นที่แพร่หลายในสหรัฐอเมริกา รวมถึงยังเป็นเลย์เอาต์หลักสำหรับคีย์บอร์ดของ Keychron Thailand อีกด้วย
• ISO (International Organization for Standardization) layout: เลย์เอาต์ที่แพร่หลายในยุโรป
• JIS (Japanese Industrial Standard) layout: เลย์เอาต์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับคีย์บอร์ดญี่ปุ่น
รูปแบบการติดตั้งเพลตหรือ PCB (Mount styles)
ปกติแล้วเคสคีย์บอร์ดจะมีการ mounting คีย์บอร์ด (การติดตั้ง Plate หรือ PCB ของคีย์บอร์ด) มาในหลากหลายรูปแบบ ต่อไปนี้คือรูปแบบของเมาท์เคสคีย์บอร์ดทั่วไปที่ควรพิจารณา
• Gasket mount: การใช้ปะเก็น (Gasket) คั่นระหว่างเพลตกับเคสด้านล่าง
• Tray mount: การยึดแผงวงจร (PCB) กับตัวเคสด้านล่างไว้ด้วยน็อตหลายตัว
• Top mount: เพลตจะติดอยู่กับเฟรมด้านบน
เคส (Case)
เคสคีย์บอร์ดทำขึ้นจากวัสดุหลากหลายประเภท เช่น อะลูมิเนียม พลาสติก นอกจากนี้ บางครั้งวัสดุที่ใช้ผลิตเคสก็ผ่านกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพในขั้นสุดท้าย ความรู้สึกในการพิมพ์ และราคา อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปเคสคีย์บอร์ดแบบโลหะมักจะทนทานและให้ความมั่นคงมากกว่า ในขณะที่เคสที่ทำจากพลาสติกจะเบากว่าและคุ้มค่ากว่า
ตัวอย่างคีย์บอร์ด Keychron Q3 ที่เคสทำจากโลหะ
เชื่อมต่อได้ทั้งแบบไร้สายและเคเบิล (Wireless/wired)
• Wireless: คีย์บอร์ดไร้สายสามารถเชื่อมต่อผ่านบลูทูธหรืออะแดปเตอร์ไร้สายเฉพาะตัว (เช่น อะแดปเตอร์ 2.4 GHz) ที่มาพร้อมกับบอร์ด ผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสายเคเบิล และไม่ต้องใช้ความพยายามมากในการจัดคีย์บอร์ดบนโต๊ะคอม อย่างไรก็ตาม คีย์บอร์ดแบบโลหะทั้งชิ้น (all-metal keyboard) แทบจะไม่มีฟังก์ชั่นไร้สายเลย เนื่องจากโลหะมักจะบล็อกสัญญาณไวร์เลส ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบแล้ว คีย์บอร์ดที่เป็น all-metal จึงจะมีการเชื่อมต่อไร้สายที่ไม่เสถียรเท่าไหร่นัก
(Keychron กำลังทดสอบความเป็นไปได้ในการผสมผสานระบบไร้สายเข้ากับ all-metal keyboard โดยคาดว่าความเสถียรของระบบไร้สายจะมีการพัฒนาในอนาคต)
• Wired: คีย์บอร์ดแบบมีสายจะเชื่อมต่อกับ PC โดยตรงผ่านสายเคเบิล ซึ่งให้ความเสถียรในการพิมพ์ ไม่มีสัญญาณรบกวนหรืออาการดีเลย์ ดังนั้นจึงเป็นฟีเจอร์ทั่วไปสำหรับคัสต้อมคีย์บอร์ดส่วนใหญ่ที่สร้างประสบการณ์เกมมิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเกมเมอร์
Driver/Software support
ในการจะโปรแกรมฟีเจอร์ที่เป็นหัวใจหลักของคีย์บอร์ดได้อย่างอิสระ คีย์บอร์ดส่วนใหญ่จึงมาพร้อมกับไดรเวอร์/ซอฟต์แวร์ที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ เช่น การรีแมปปุ่ม การปรับแสง RGB และการสร้างชุดคำสั่งคีย์ลัดที่ต้องการด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว ทีนี้เรามาลองเปรียบเทียบไดรเวอร์/ซอฟต์แวร์ที่ใช้ทั่วไปกัน
• QMK ที่มาพร้อม VIA: QMK เป็นเฟิร์มแวร์คีย์บอร์ดแบบ open-source (ซอฟต์แวร์ฟรีที่เปิดให้ผู้พัฒนาเข้าไปปรับแต่งโค้ดได้) ที่ถูกยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุดในคอมมูนิตี้ชาวคัสต้อมคีย์บอร์ด เฟิร์มแวร์ QMK มีฟีเจอร์พิเศษมากมายที่อนุญาตให้ผู้ใช้รีแมปคีย์ใดๆ ก็ได้ กำหนดค่าได้หลายเลเยอร์ คีย์ลัด ตั้งมาโคร ไฟแบ็กไลท์ RGB และอื่น ๆ อีกมากมาย และ VIA ก็เป็นส่วนขยายของ QMK ที่ช่วยให้เราใช้งาน QMK ง่ายขึ้นมาก (อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ QMK/VIA เพิ่มเติมได้ที่นี่)
• อื่นๆ: นอกจากนี้ยังมีไดรเวอร์และ configurator บางตัวที่พัฒนาโดยผู้ผลิตคีย์บอร์ดเพื่อให้คีย์บอร์ดสามารถตั้งโปรแกรมได้ แต่ส่วนใหญ่อาจไม่ได้ให้ฟีเจอร์แก้ไขเลเยอร์และสร้างคีย์ลัดมา
Polling rate
โดยทั่วไป Polling rate คือการวัดความถี่ที่อุปกรณ์รายงานไปยังคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่ โดยมีเฮิรตซ์ (Hz) เป็นหน่วยวัด ยิ่งค่าสูงเท่าไหร่ คีย์บอร์ดก็จะตอบสนองเร็วขึ้นเท่านั้น
ในทางปฏิบัติ แมคคานิคอลคีย์บอร์ดที่มี Polling rate ตั้งแต่ 125 Hz ถึง 250 Hz ก็เพียงพอต่อความต้องการใช้งานประจำวันในออฟฟิศแล้ว แต่เพื่อให้การดีเลย์ลดลงและทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมดีขึ้น ขอแนะนำว่าคีย์บอร์ดของเหล่าเกมเมอร์ควรมี Polling rate ตั้งแต่ 1,000 Hz ขึ้นไป
Soldered/Hot-swappable PCB
• Soldered PCB: คือ PCB (แผงวงจรคีย์บอร์ด) ที่มีสวิตช์ที่บัดกรีแล้วติดตั้งอยู่ จึงทำให้ไม่สามารถดึงสวิตช์ออกมาด้วยมือได้ หากคุณต้องการเปลี่ยนสวิตช์ คุณจะต้องมีประสบการณ์ในการบัดกรีและมีเครื่องมือที่เหมาะสม
• Hot-swappable PCB: PCB ในรูปแบบนี้ได้ติดตั้งซ็อกเก็ตแบบ Hot-swappable ไว้แล้ว เพื่อให้สามารถเสียบสวิตช์เข้าไปได้ คุณสามารถเปลี่ยนสวิตช์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องบัดกรี (คลิกที่นี่สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม)
หมายเหตุ: ปกติแล้ว Optical switch จะไม่สามารถใช้งานกับคีย์บอร์ดที่มีฟีเจอร์ hot-swappable ได้ หากเป็นคีย์บอร์ดสำหรับ Optical switch และมีฟีเจอร์ hot-swappable นั่นหมายความว่าฟีเจอร์ Hot-swap จะใช้งานได้กับ Optical switch บางตัวเท่านั้น
Anatomy ของคัสต้อมแมคคานิคอลคีย์บอร์ด
สิ่งที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณสามารถคัสต้อมบนคีย์บอร์ดของคุณได้เองง่าย ๆ ซึ่งคุณสามารถพิจารณาจากความชอบของคุณได้เลย
คีย์แคป (Keycap)
การเลือกคีย์แคปอาจจะมีความยากเล็กน้อย เนื่องจากมีหลายองค์ประกอบที่ต้องพิจารณา ดังนี้
• วัสดุ (Material): โดยปกติแล้ว พลาสติกทั่วไปที่ใช้ในการผลิตคีย์แคปจะมี 2 ประเภท ได้แก่ ABS และ PBT
ABS เป็นวัสดุที่ใช้กันแพร่หลายกว่า จะมีผิวที่เคลือบมัน และทำจากพลาสติกที่บางกว่า ในขณะที่ PBT ค่อนข้างมีผิวสัมผัสที่สากกว่าและทนทานกว่า
• โปรไฟล์ (Profile): โปรไฟล์ หมายถึง ความสูงและรูปร่างของคีย์แคป โปรไฟล์ทั่วไป ได้แก่ โปรไฟล์ OEM, Cherry, XDA และ SA (คีย์แคปทั้งหมดที่มีตัวอักษร "SA" เช่น OSA มักจะมีความโค้งด้านบน) การเลือกโปรไฟล์คีย์แคปมักจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว แต่หากคุณซื้อชุดคีย์แคปแยกต่างหาก คุณอาจต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าใช้กับคีย์บอร์ดของคุณได้หรือไม่
• แสง Backlight ลอดผ่านได้หรือไม่: หากคีย์บอร์ดของคุณมีไฟแบ็กไลท์ คุณอาจจะลองเลือกคีย์แคปแบบที่แสงแบ็กไลท์ลอดผ่านได้ เพื่อให้เอฟเฟกต์แบ็กไลท์แสดงผลชัดเจนในเวลากลางคืน
คีย์แคปไฟลอด (Backlit keycaps)
คีย์แคปไฟไม่ลอด (Non-backlit keycaps)
หมายเหตุ: คุณอาจต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าคีย์บอร์ดของคุณมาพร้อม RGB แบบ North-facing (ไฟ LED แบ็กไลท์อยู่ด้านบนของปุ่ม หันออกจากผู้ใช้) หรือ RGB แบบ South-facing (ไฟ LED แบ็กไลท์อยู่ด้านล่างของปุ่ม หันเข้าหาผู้ใช้) ส่วนใหญ่คีย์บอร์ดที่เป็น South-facing RGB จะทำขึ้นสำหรับคีย์แคป PBT ระดับพรีเมียมที่ไฟแบ็กไลท์ไม่ลอดผ่าน และไฟ RGB จะไม่ถูกบดบังแม้จะใช้คีย์แคปแบบ Cherry-profile และให้เอฟเฟกต์แบ็กไลท์แสดงผลได้ดีขึ้นจากมุมของผู้พิมพ์ ส่วน RGB แบบ North-facing จะใช้สำหรับคีย์แคปที่ไฟแบ็กไลท์ลอดผ่านได้ เช่น คีย์แคป ABS
สวิตช์ (Switch)
แมคคานิคอลสวิตช์เป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดที่กำหนดว่าคีย์บอร์ดของคุณจะให้ความรู้สึกหรือสัมผัสในการพิมพ์อย่างไร สวิตช์อาจแตกต่างกันไปตามระดับความนุ่ม ความลึก แรงต้าน และระดับความดังของเสียง อย่างไรก็ตาม สวิตช์ถูกแบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก ได้แก่ linear, clicky และ tactile
• Linear: กดลื่น ให้สัมผัสการกดที่สม่ำเสมอ และเสียงค่อนข้างเงียบ
• Tactile: มีแรงเด้งกลับเล็กน้อยในการกดปุ่มแต่ละครั้ง และมีเสียงดังปานกลาง
• Clicky: มีแรงเด้งกลับเล็กน้อยในการกดปุ่มแต่ละครั้ง และมีเสียงดังคลิก ๆ
Credit: cherrymx.de
เพลต (Plate)
เพลต คือส่วนประกอบที่ช่วยยึดสวิตช์ให้เข้าที่ ส่วนใหญ่ทำจากอะลูมิเนียม, ทองเหลือง, เหล็ก, FR4 หรือโพลีคาร์บอเนต เพลตที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกันอาจมีความแข็งแกร่งแตกต่างกันไป วัสดุเพลตที่ดีที่สุดสำหรับงาน build ของคุณนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของคุณ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น วัสดุของเคส ที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและความเสถียรให้กับสวิตช์ของคุณ และยังส่งผลต่อความรู้สึกในการพิมพ์ของแป้นพิมพ์อีกด้วย
Aluminum
Brass
Steel
FR4
Polycarbonate
สเตบิไลเซอร์ (Stabilizers)
สเตบิไลเซอร์ (Stabilizers) หรือที่เรียกกันว่า สแตบ (stabs) เป็นส่วนสำคัญของคีย์บอร์ดที่ป้องกันไม่ให้ปุ่มที่มีขนาดใหญ่ อย่างเช่น สเปซบาร์ มีอาการสั่น โยก หรือเอียงขณะกด และช่วยผูกคีย์แคปเข้ากับสวิตช์ สแตบที่เห็นได้ทั่วไปสามารถจัดเรียงได้เป็นสามประเภท ได้แก่ PCB screw-in, plate-mounted และแบบหนีบ (clip-in)
PCB screw-in
Plate-mounted
Clip-in
คัสต้อมคีย์บอร์ดส่วนใหญ่นิยมใช้สเตบิไลเซอร์แบบ screw-in เนื่องจากน็อตจะถูกขันเข้ากับ PCB โดยตรงเพื่อให้สแตบติดอย่างแน่นหนาและมั่นคงที่สุด นอกจากนี้ แบบ screw-in ยังง่ายต่อการปรับแต่งและมีตัวเลือกต่างๆ มากมายในตลาด แนะนำให้เลือกสเตบิไลเซอร์แบบ screw-in เสมอถ้าเป็นไปได้
เคเบิล (Cable)
มีคัสต้อมคีย์บอร์ดระดับไฮเอนด์มากมายที่มีสายเคเบิลแบบถอดได้ หรือคุณอาจเลือกปรับแต่งเองได้ มีสายเคเบิลหลายประเภทในท้องตลาด เช่น สายเคเบิลแบบขดที่ดูพรีเมียม คุณสามารถหาสายเคเบิลสำหรับคัสต้อมคีย์บอร์ดได้มากมาย ไม่ว่าจะเลือกสีที่น่าสนใจ เลือกแบบเส้นตรงหรือแบบขด รวมถึงขั้วต่อ USB เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความมีรสนิยมให้กับโต๊ะคอมของคุณ
อื่นๆ
อุปกรณ์เสริมอื่นๆ อีกสองสามอย่าง เช่น badge ที่รองข้อมือ และกระเป๋าหิ้ว ถือเป็นไอเท็มทางเลือก เนื่องจากของเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้ และขึ้นอยู่กับความชอบของคุณเป็นหลัก หากคุณต้องการสั่งซื้ออุปกรณ์เสริมเหล่านี้ อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณซื้อสามารถใช้กับคีย์บอร์ดของคุณได้
การ mod คีย์บอร์ดเบื้องต้น
เราได้ลิสต์วิธีที่ง่าย ๆ ที่คนในวงการคัสต้อมใช้สำหรับการปรับแต่งคีย์บอร์ดของพวกเขา ลองดูเลย!
หมายเหตุ: โปรดทราบว่าการดำเนินการบางอย่างอาจทำให้การรับประกันที่ให้ไว้เป็นโมฆะ เพื่อความปลอดภัย ให้ตรวจสอบนโยบายการรับประกันกับผู้ผลิตคีย์บอร์ดของคุณเสมอ
Mod switch
การลูปสวิตช์เป็นวิธีที่ดีในการปรับปรุงคุณภาพเสียงและฟีลลิ่งการกดสวิตช์แบบ linear และแบบ tactile กระบวนการนี้อาจจะใช้เวลานานเล็กน้อยและต้องใช้เครื่องมือเพิ่มเติม หรือคุณสามารถซื้อสวิตช์ที่พรีลูปไว้แล้วก็ได้ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำเอง รวมถึงคุณสามารถลองฟิล์มสวิตช์ได้เช่นกัน
Mod stabilizer
เพื่อลดเสียงสเตบิไลเซอร์และอัปเกรดความรู้สึกขณะพิมพ์บนคีย์บอร์ด มีสามขั้นตอนง่าย ๆ ได้แก่ การคลิปสเตบิไลเซอร์ การลูป หรือใช้พลาสเตอร์ยา ในบรรดาการ mod ทั้งสามวิธีนั้น การลูปจะเห็นผลมากที่สุดต่อประสิทธิภาพของสแตบ โปรดทราบว่าวิธีเหล่านี้อาจใช้ไม่ได้กับสแตบบางประเภท คุณสามารถดูวิดีโอออนไลน์เพื่อศึกษาหรือตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนเริ่มขั้นตอนนี้
Sound dampening
บางครั้งเคสด้านล่าง (bottom case) ของคัสต้อมคีย์บอร์ดอาจฟังดูกลวง (hollow) และทำให้สวิตช์มีเสียงสะท้อน (ping) ขณะพิมพ์ นี่เป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปกับเคสแบบโลหะ การเพิ่มวัสดุที่อ่อนนุ่ม เช่น ฟองน้ำโฟมหรือเส้นใยลงในเคสด้านล่างเป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะลดเสียงรบกวนและลดช่องว่างภายในคีย์บอร์ด
เราจะหาชิ้นส่วนคีย์บอร์ดได้จากที่ไหน?
มีสถานที่มากมายให้คุณได้ซื้อชิ้นส่วนคีย์บอร์ด ไม่ว่าคุณจะต้องการซื้อชิ้นส่วนที่มีในสต็อก (in-stock) หรือซื้อเป็นกลุ่ม (Group buy) แต่ละวิธีก็จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป
• in-stock: คุณจะได้รับชิ้นส่วนที่จัดส่งภายในสองสามวัน/สัปดาห์ และมีบริการหลังการขาย ยกเว้นสินค้าที่มีจำกัด
• Group buy: คุณอาจต้องรอหลายเดือนสำหรับชิ้นส่วนจากการซื้อ Group buy ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีราคาค่อนข้างสูงเนื่องจากโรงงานไม่สามารถลดต้นทุนการผลิตได้เนื่องจากผลิตในปริมาณจำกัด แต่รับประกันว่าดีไซน์ไม่เหมือนใครแน่นอน
การเลือกในทุกหัวข้ออาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นที่ยังไม่มีประสบการณ์ แต่วิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นคือการมองหาชิ้นส่วนคีย์บอร์ดที่มีวางขายอยู่แล้วและเริ่มต้นจากคีย์บอร์ดแบบ Fully assembled เมื่อคุณเริ่มต้นจากสิ่งนี้ คุณจะได้เรียนรู้ว่าคุณชอบอะไร และยังได้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย!
สำหรับผู้ที่อยากลองคัสต้อม เราขอแนะนำให้คุณเริ่มด้วยคัสต้อมคีย์บอร์ดของ Keychron จะเหมาะสำหรับคนที่ทำงานออฟฟิศและเล่นเกมที่บ้าน ด้วยความที่มีไดรเวอร์และซอฟต์แวร์ซัพพอร์ต จึงมีการใช้กันอย่างแพร่หลายและปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน ทั้งคนที่ใช้พิมพ์งานและเกมเมอร์สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การพิมพ์ที่พัฒนายิ่งขึ้น เพิ่มความโปรดักทีฟ ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมอีกด้วย