Keychron Keyboard Guide: แนะนำรุ่นคีย์ครอน

หากคุณกำลังตัดสินใจจะซื้อคีย์บอร์ด Keychron สักตัว แต่พบว่ามีหลายรุ่นจนไม่แน่ใจว่าจะซื้อ Keychron รุ่นไหนดี หรือไม่รู้ว่าแต่ละซีรีส์ทั้ง K, K Pro, Q, Q Pro และ V แตกต่างกันยังไง บทความในวันนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่อง “Keychron Keyboard Buying Guide” ที่จะช่วยแนะนำวิธีการเลือกซื้อ Keychron เราควรดูเรื่องอะไรประกอบการตัดสินใจบ้าง ตามมาดูกัน

K series

เชื่อว่าคงเป็นซีรีส์แรกที่ทำให้หลายๆ คนรู้จักคีย์ครอน เนื่องด้วยความอเนกประสงค์ของคีย์บอร์ดไร้สายซีรีส์นี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นแมคคานิคอลคีย์บอร์ดตัวเริ่มต้นที่ใช้ง่ายและมีฟังก์ชั่นตรงตามความต้องการ คุณสมบัติหลักๆ คือเป็นแมคคานิคอลคีย์บอร์ดไร้สายที่เรียบหรูดูมินิมอล เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันครั้งละ 3 เครื่อง ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก PC ไอแพด สามารถใช้ได้กับ Mac แบบสมูธ 100% โดยที่ไม่ต้องปรับตัวเลย เพราะเมื่อสลับ toggle เข้าโหมด macOS แล้วปุ่ม Command และ Option ก็ยังจะอยู่ที่เดิม รวมถึงมีคีย์แคปสำหรับตัวคำสั่งเองด้วย แต่สำหรับถ้าใครซื้อไปใช้กับ Windows ก็สลับ toggle กลับมา และใช้คีย์แคป Windows กับ Alt เป็นหลักก็ได้เช่นกัน ซีรีส์นี้เหมาะจะใช้ทั้งทำงานและเล่นเกม ด้วยความที่ดีไซน์ไม่ออฟฟิศเกิน ไม่เกมมิ่งเกิน ทำให้อยู่บนโต๊ะคอมของคุณได้แบบบาลานซ์พอดี ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ สำหรับคีย์บอร์ดในซีรีส์นี้ มีรุ่น K1 SE, K2, K3, K4, K5 SE, K6, K7, K8, K10

K Pro series

นี่คือ K series เวอร์ชั่นอัปเกรดจนได้ชื่อว่าเป็น “K Pro series” ด้วยฟังก์ชั่นที่เป็นคีย์บอร์ดใช้งานง่ายเหมือนกับ K series แต่เสริมความโปรด้วยการใส่ “ชิป” เข้าไปในคีย์บอร์ดเพื่อให้มันสามารถจดจำคำสั่งที่เราป้อนเข้าไปได้ ผ่านการตัังค่าในโปรแกรม QMK/VIA เป็นฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาสำหรับคนที่ต้องการใช้คำสั่งเฉพาะตัว เช่น คุณอาจจะไม่ได้ใช้คำสั่งปุ่ม insert ในชีวิตประจำวัน ก็อาจจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นปุ่ม copy ก็ได้ หรืออยากเปลี่ยนปุ่ม page up เป็นเรียกใช้เครื่องคิดเลข ก็ทำได้ง่ายๆ เลย แค่เปิด VIA เพื่อเซตคำสั่งปุ่มเท่านั้น สำหรับคีย์บอร์ดในซีรีส์นี้ มีรุ่น K1 Pro, K2 Pro, K3 Pro, K4 Pro, K5 Pro, K6 Pro, K7 Pro, K8 Pro, K9 Pro, K10 Pro, K13 Pro

Q series

สำหรับ "Q series" คงต้องบอกว่าเป็นคัสตอมคีย์บอร์ดบอดี้อะลูมิเนียม CNC ทั้งชิ้นซีรีส์แรกจาก Keychron ที่เกิดมาเพื่อให้ทุกคนได้ลองปรับแต่งคีย์บอร์ด ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ตั้งแต่รูปร่างหน้าตาภายนอก วัสดุภายใน รวมไปถึงการปรับแต่งคำสั่งปุ่มผ่านโปรแกรม QMK/VIA ก็ทำได้ไม่ต่างจาก K Pro series เลย แต่จะมีข้อจำกัดคือเป็นคีย์บอร์ดที่ต้องเสียบสายเพื่อใช้งาน ไม่มีบลูทูธมาด้วย ในซีรีส์นี้ คีย์บอร์ดทุกชิ้นส่วนสามารถถอดออกและประกอบกลับเข้าไปได้โดยไม่หลุดประกัน ซึ่งการปรับแต่งหรือคัสตอมคีย์บอร์ดนั้นทำเพื่อปรับแต่งเสียงและสัมผัสการพิมพ์ บางคนทำงานอยู่กับคีย์บอร์ดทั้งวันก็อยากจะให้คีย์บอร์ดเสียงเบาลง หรือกดนุ่มขึ้น ทุกอย่างนี้ปรับแต่งได้ตามต้องการ สามารถอ่านเพิ่มได้จากบทความ “เลือกคัสต้อมคีย์บอร์ดแบบไหนดี” สำหรับคีย์บอร์ดในซีรีส์นี้ มีรุ่น Q1, Q2, Q3, Q5, Q6, Q12

Q Pro series

แน่นอนว่าคอนเซปต์เหมือนกับ Q series แต่เพิ่มเติมความโปรขึ้นมาก็คือเป็นคีย์บอร์ดบอดี้อะลูมิเนียมที่สามารถใช้งานแบบไร้สายได้ ซึ่งหาได้ยากในตลาดคัสตอมคีย์บอร์ด และหายากในราคาเท่านี้ เนื่องจากข้อจำกัดที่ว่าสัญญาณบลูทูธจะเดินทางผ่านวัสดุอะลูมิเนียมได้ไม่ค่อยดีนัก ปกติจึงอาจทำให้เกิดอาการไม่เสถียรเมื่อใช้งานไร้สาย แต่ Q Pro series ทำได้ และสัญญาณมีความเสถียรปกติ สามารถใช้ทำงานและเล่นเกมได้เลย สำหรับคีย์บอร์ดในซีรีส์นี้ มีรุ่น Q1 Pro, Q2 Pro, Q3 Pro, Q5 Pro

V series

นี่คือคัสตอมคีย์บอร์ดราคาย่อมเยาและแถมฟังก์ชั่นมาอย่างคุ้มค่า นอกจากจะรองรับโปรแกรม QMK/VIA แล้วก็ยังให้เสียงและสัมผัสการพิมพ์ที่ดีกว่าคีย์บอร์ดทั่วไป หากกำลังมองหาคัสตอมคีย์บอร์ดตัวแรกและอยากลองแต่งคีย์บอร์ดตัวเองครั้งแรก "V series" ถือเป็นซีรีส์ที่เหมาะมากๆ ซีรีส์นี้จะคล้ายกับ Q series แค่ปรับบอดี้มาเป็นวัสดุพลาสติกโปร่งแสงเท่านั้น และมีข้อจำกัดเหมือนกันคือเป็นคีย์บอร์ดที่ต้องเสียบสายเพื่อใช้งาน สำหรับคีย์บอร์ดในซีรีส์นี้ มีรุ่น V1, V2, V3, V5, V6

2. ชอบคีย์บอร์ดหนาหรือบาง?

คีย์บอร์ด Keychron ใน K series และ K Pro series จะมีบอดี้ 2 แบบ แบบที่เหมือนคีย์บอร์ดตั้งโต๊ะปกติ เราจะเรียกว่า “Normal Profile” ส่วนแบบบาง คล้ายเมจิกคีย์บอร์ด เรียกว่า “Low Profile” เพราะฉะนั้น Profile หมายถึงความสูงต่ำของคีย์บอร์ด ซึ่ง low profile จะบางกว่าครึ่งนึงเมื่อเทียบกับ normal profile ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบแบบไหน น้ำหนักก็จะต่างกันด้วย

3. ใช้ตัวเลขบ่อยไหม?

ถ้าใช้แป้นตัวเลขในการทำงานบ่อยๆ ขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่มี numpad โดยคีย์บอร์ดรุ่นต่างๆ เราจะแบ่งตาม “เลย์เอาต์” หรือขนาดคีย์บอร์ด เริ่มตั้งแต่

• 100% - ขนาด Full-size มีครบทุกปุ่ม ทั้งตัวอักษร ปุ่ม navigation และแป้นตัวเลข เช่น Keychron รุ่น K5 SE, K10, K5 Pro, K10 Pro, V6, Q6
• 96% - ขนาด Compact Full-size เลย์เอาต์นี้จะขยับปุ่ม navigation ไปกระจายอยู่แถวด้านบนแทน และขยับแป้นตัวเลขเข้ามาชิดเพื่อประหยัดพื้นที่ เช่น Keychron รุ่น K4, K4 Pro, V5, Q5
• 80% - หรือที่เรียกว่า Tenkeyless layout (TKL) เหมือน Full-size ที่ตัดแป้นตัวเลขออกไป โดยที่ปุ่ม navigation ยังอยู่ที่เดิม เช่น Keychron รุ่น K1 SE, K8, K8 Pro, Q3, Q3 Pro, V3
• 75% - เลย์เอาต์นี้จะเป็น Compact Tenkeyless layout ที่กระจายปุ่ม navigation มาไว้แถบข้างๆ เหลือไว้แค่ปุ่มที่ใช้บ่อยๆ เช่น Keychron รุ่น K2, K3, K2 Pro, K3 Pro, V1, Q1, Q1 Pro
• 65% - จะเป็นเลย์เอาต์ที่รวบแถวปุ่ม function ลงมาอยู่กับตัวอักษรแถวแรก เลย์เอาต์นี้จะได้ความกะทัดรัดและเพิ่มพื้นที่ใช้เมาส์บนโต๊ะให้เยอะขึ้นอีก เช่น Keychron รุ่น K6, K7, K6 Pro, K7 Pro, Q2, Q2 Pro, V2

4. ชอบเสียงและสัมผัสการพิมพ์แบบไหน?

ข้อนี้อาจจะยากสำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้แมคคานิคอลคีย์บอร์ดมาก่อน จึงจะขอแนะนำให้ไปทดลองคีย์บอร์ดแบบที่ชอบก่อน ซึ่งสิ่งที่ต้องเลือกก็คือ “สวิตช์” ที่จะเป็นตัวกำหนดเสียงและสัมผัสการพิมพ์ให้กับคีย์บอร์ด ซึ่งส่วนใหญ่ Keychron จะมีสัมผัสการพิมพ์ให้เลือก 3 แบบ ตามสวิตช์ 3 สีที่อยู่ใต้แต่ละปุ่มของคีย์บอร์ด ก็คือ red / blue และ brown switch ถ้าใช้คีย์บอร์ดที่ออฟฟิศแล้วกลัวเสียงดังเกินไป หรืออยากได้คีย์บอร์ดที่ใช้แรงกดน้อย ๆ ลื่น ๆ ก็จะแนะนำเป็น red switch ถ้าอยากพิมพ์มันๆ สนุกๆ กดปุ่มแล้วเสียงดังสะใจ แนะนำเป็น blue switch จะช่วยให้การพิมพ์และการเล่นเกมของเราสนุกขึ้นอีกเยอะ ส่วนใครที่อยากบาลานซ์ พิมพ์สนุกแต่เสียงไม่ดังเกิน ขอแนะนำเป็น brown switch เลย สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวิตช์คีย์บอร์ดได้ที่บทความ “สีสวิตช์คีย์บอร์ดแต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร”

5. อยากคัสตอมคีย์บอร์ดไหม?

นึกถึงการจัดโต๊ะคอมหรือการแต่งรถ เหล่านี้ต่างก็มีจุดที่เหมือนกันคือเราอยากจะปรับให้โต๊ะคอมหรือรถเป็นแบบที่เราชอบ ไม่ว่าจะเป็นมู้ดโทนหรือเสียง คีย์บอร์ดก็แต่งได้เช่นกัน ได้ตั้งแต่ดีไซน์ เสียง ไปจนถึงสัมผัสการพิมพ์เลย ระดับง่ายสุดก็คือเปลี่ยน “คีย์แคป” หรือ “สวิตช์” ซึ่งคีย์บอร์ดของ Keychron สามารถทำได้อยู่แล้วทุกรุ่น แต่ถ้าอยากปรับเพิ่มถึงระดับวัสดุภายในคีย์บอร์ด ไม่ว่าจะเป็นการใส่มวลบางอย่างเข้าไปในคีย์บอร์ดเพื่อให้ได้เสียงพิมพ์ที่ทุ้มขึ้น สัมผัสการพิมพ์ที่แน่นขึ้น ทำได้ด้วยการใส่โฟม แปะเทปลงบน PCB หรือที่เรียกว่า tape mod ถ้าอยากจะลองปรับแต่งคีย์บอร์ดหรือเพิ่มกิจกรรมเหล่านี้เข้าไปในงานอดิเรก ซีรีส์ที่แนะนำให้เลือกก็คือ Q, Q Pro, K Pro และ V series เนื่องจากถอดและประกอบคีย์บอร์ดได้โดยไม่หลุดประกัน และหากยังตัดสินใจไม่ถูก ขอแนะนำให้ทดลองสินค้า ซึ่ง Keychron เองก็มีวางจำหน่ายสินค้าที่หน้าร้านขายแกดเจ็ตชั้นนำและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ อยากทดลองรุ่นไหนสามารถสอบถามที่แต่ละร้านได้เลย

สั่งซื้อคีย์บอร์ดเพิ่มเติมได้ที่นี่

อ่านบทความเกี่ยวกับคีย์บอร์ดที่น่าสนใจ